ประธานเป็นผู้กระทำกริยาและเป็นผู้ถูกกระทำ

ประธานเป็นผู้กระทำกริยาและเป็นผู้ถูกกระทำ
Last update 13 / 03 / 22by: Teacher Guru1.2K viewed

Active Voice and Passive Voice

 

หลาย ๆ ครั้งเราก็สงสัยว่าประโยคหนึ่งๆ อะไรเป็นประธาน อะไรเป็นกรรม ซึ่งโดยปกติแล้วในประโยคก็จะมีการเรียง ประธาน + กริยา  + กรรม คือ ประธานกระทำต่อกรรม

กลับกันรูปแบบประโยคอีกแบบหนึ่งคือ ประธานของประโยคถูกกระทำ กรรมใดที่มีคือประธานของประโยคนั่นเอง แล้วอะไรคือข้อแตกต่าง หรือมีเงื่อนไขอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

 

  1. Active Voice คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยาโดยตรง โดยมีกรรมมารับหรือไม่มีกรรมมารับประโยคก็ได้ซึ่งมีโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ ดังนี้

Subject + Verb (ประธาน + กริยา)

 

โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษแบบย่อ คือ

S. + V.

 

โดยทั่วไป สามารถเขียนโครงสร้างประโยคออกเป็นแบบต่างๆ แบ่งตามกาลเวลา และขึ้นอยู่กับความรู้สึกหรือความหมายที่ต้องการสื่อ โดยในภาษาอังกฤษจะใช้หลักโครงสร้าง tense ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะแบ่งเป็น 12 tense ซึ่งเป็นโครงสร้างสำหรับอดีต 3 แบบ ปัจจุบัน 3 แบบ และอนาคต 3 แบบ

 

โครงสร้างพื้นฐานสำหรับปัจจุบัน คือ

Present simple

 

โครงสร้างพื้นฐานสำหรับอดีต คือ

Past Simple

 

โครงสร้างพื้นฐานสำหรับอนาคต คือ

Future Simple

2. Passive Voice คือ กรรมวาจก เป็นประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ เป็นประโยคที่นำเอาคน สัตว์ สิ่งของ หรือสถานที่ ที่ถูกกริยาของประโยคกระทำ มาวางไว้ข้างหน้าประโยค เป็นประธานของประโยค โดยมีโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ ดังนี้

 

             Subject + Verb to be + Verb 3 (Past Participle)

             ประธาน + กริยา to be + กริยาช่องที่ 3

 

             โครงสร้างประโยค Passive Voice แบบย่อ คือ

             S. + V. to be + V.3

โครงสร้างหลักของ Passive voice คือ Subject + Verb to be + Verb 3 ซึ่งมีความแตกต่างของแต่ละ tense อิงตามโครงสร้าง tense แบบ active voice โดยสามารถทำประโยค passive voice ได้ง่ายๆ เพียงแค่นำ V. to be ไว้หน้ากริยา แล้วทำกริยานั้นให้กลายเป็นช่องที่ 3 ดูได้จากโครงสร้าง และตัวอย่างประโยค passive voice ทั้ง 12 tenses ต่อไปนี้

  Passive voice ใน Tense ตระกูล Present (ปัจจุบัน)

 

present simple tense

โครงสร้าง Subject + is, am, are + Verb 3

ตัวอย่าง The lessons are taught (by Lisa) today.

 

present continuous tense

โครงสร้าง Subject + is, am, are + being + Verb 3

ตัวอย่าง The car is being fixed (by Peter) right now.

 

present perfect tense

โครงสร้าง Subject + have, has + been + Verb 3

ตัวอย่าง It has been sent.

 

present perfect continuous tense

โครงสร้าง Subject + have, has + been + being + Verb 3

ตัวอย่าง They have been being interviewed since 9 a.m.

 

Passive voice ใน Tense ตระกูล Past (อดีต)

 

past simple tense

โครงสร้าง Subject + was, were + Verb 3

ตัวอย่าง They were informed.

 

past continuous tense

โครงสร้าง Subject + was, were + being + Verb 3

ตัวอย่าง They were being warned.

 

past perfect tense

โครงสร้าง Subject + had + been + Verb 3

ตัวอย่าง He had been hit before he became disable.

 

past perfect continuous tense

โครงสร้าง Subject + had + been + being + Verb 3

ตัวอย่าง It had been being built for three years.

 

Passive voice ใน Tense ตระกูล Future (อนาคต)

 

future simple tense

โครงสร้าง Subject + will + be + Verb 3

ตัวอย่าง You will be loved forever.

 

future continuous tense

โครงสร้าง Subject + will + be + being + Verb 3

ตัวอย่าง It will be being made when you come tomorrow.

 

future perfect tense

โครงสร้าง Subject + will + have + been + Verb 3

ตัวอย่าง It will have been read by tomorrow.

 

future perfect continuous tense

โครงสร้าง Subject + will + have + been + being + Verb 3

ตัวอย่าง The stories will have been being told for 20 minutes when you arrive.

การเปลี่ยนประโยคบอกเล่า Active Voice เป็น Passive Voice

1.ให้เอากรรมของประโยค Active Voice มาเป็นประธานในประโยค Passive Voice ถ้าเป็นคำนามไม่ต้องเปลี่ยนรูป แต่ถ้าคำสรรพนามให้เป็นเปลี่ยนเป็นรูปกรรม

2.ให้เปลี่ยน Verb to be อยู่ใน Tense เดียวกับกริยาหลักของประโยค Active Voice และผันตามประธานในประโยค Passive Voice

3.กริยาหลักในประโยค Active Voice ควรเปลี่ยนเป็นกริยาช่องที่ 3

4.ต่อด้วย by + ประธานในประโยค Active Voice ที่เปลี่ยนรูปกรรม ถ้าเป็นคำนามให้คงรูปเดิม แต่คำสรรพนามให้เปลี่ยนเป็นรูปกรรมก่อน

 

ตัวอย่างเช่น

กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Present Simple ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น is , am , are

เช่น She drinks milk.

Milk is drunk by her.

 

กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Present Continuous ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (is,am,are) + being

เช่น She is eating oranges.

Oranges are being eaten by her.

 

กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Present Perfect ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (has,have) + been

เช่น He has written these letters.

These letters have been written by him.

 

กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Past Simple ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น was, were

เช่น She drinks milk.

Milk was drunk by her.

 

กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Past Continouns ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (was,were) + being

เช่น She was eating oranges.

Oranges were being eaten by her.

 

กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Past Perfect ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น had been

เช่นHe had written these letters.

These letters had been written by him.

 

กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Future Simple ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (will,shall) + be

เช่น She will do her homework.

Her homework will be doneby her.

 

กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Future Continuous ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น

(will,shall) + be + being

เช่น She will be sending a letter.

A letter will be being sent by her.

 

กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Future Perfect ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (will,shall) + have + been

เช่น They will have cleaned this room this weekend.

This room will have been cleaned by them this weekend.

 

 

 

การเปลี่ยนประโยคคำถาม Active Voice เป็น Passive Voice

 

ถ้าประโยคขึ้นต้นด้วย Helping Verb

1.เปลี่ยนประโยคคำถามเป็นประโยคบอกเล่า

2.เปลี่ยนประโยคบอกเล่าจาก Active Voice เป็นประโยค Passive Voice

3.เปลี่ยนประโยคบอกเล่า Passive Voice เป็นประโยคคำถาม โดยใช้ Helping Verb ขึ้นต้นประโยคและตามด้วยประธาน กริยา และส่วนอื่นๆ ต่อไป

ตัวอย่างเช่น

Does she buy this book ?

ขั้น 1   She buys this book.

ขั้น 2   This book is bought by her.

ขั้น 3   Is this book bought by her ? (Passive Voice)

 

ถ้าประโยคคำถามขึ้นต้นด้วย Question Word

1.ให้เปลี่ยนประโยคคำถามเป็นประโยคบอกเล่า

2.ให้เปลี่ยนประโยคบอกเล่า Active Voice เป็นประโยค Passive Voice

3.ให้เปลี่ยนประโยคบอกเล่า Passive Voice เป็นประโยคคำถาม โดยใช้ Question Word เป็นคำขึ้นต้นประโยคและตามด้วย helping verb ประธาน กริยาและส่วนอื่น ต่อไป ยกเว้น คำว่า Who ในประโยค Active Voice ให้เปลี่ยนเป็น By whom ในประโยค Passive Voice

เช่น   Who sees her ?

ขั้น 1.  Who sees her.

ขั้น 2.  She is seen by whom.

ขั้น 3.  By whom is she seen?

 

Which car do you buy?

ขั้น 1.  You buy which car.

ขั้น 2, 3  Which car is bought by you ?

 

Verbs Expressing Emotion หมายถึง กริยาที่แสดงความรู้สึก เช่น interest , amuse , bore , please , frighten , excite , tire , astonish , surprise , disappoint , etc. ลักษณะการใช้กริยาเหล่านี้ คือ

1.ใช้เป็น Verb ในรูป Active Voice (Subj + V + obj) แปลว่า ทำให้   

เช่น This car interests me. แปลว่า รถคันนี้ทำให้ฉันสนใจ

2.ใช้ใน present participle (V-ing) แปลว่า น่า เมื่อมีความรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่งต่อบุคคลหรือสิ่งใด ให้เติม -ing หลัง Verb นั้น

เช่น John is boring . แปลว่า จอห์นเป็นคนน่าเบื่อ

This book is interesting . แปลว่า หนังสือเล่มนี้น่าสนใจ

3.ใช้เป็น Adj หรือในรูป Passive Voice เรียก Past participle adjective คือ adj ที่มาจาก past participle (Subj + Verb to be +past participle adj + prep) แปลว่า รู้สึก เมื่อบุคคลใดมีความรู้สึกอย่างไรต่อบุคคลอื่นหรือสิ่งอื่น เติม ed หลัง Verb และมี preposition ตาม

เช่น John is bored with her.

แปลว่า จอห์น เบื่อเธอ

 

She is interested in this book .

แปลว่า เธอ สนใจในหนังสือเล่มนี้

 

 

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี (.ต้นอมร) http://www.tonamorn.com/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9/active-passive-voice/

ประธานเป็นผู้กระทำกริยาและเป็นผู้ถูกกระทำActive VoicePassive Voice
พูดคุย

พูดคุย

ร่วมให้กำลังใจหรือติชม